คนที่สามารถเอาชนะดวงชะตาของตัวเองได้ ชนิดที่ว่าหมอดูทำนายยังไงก็ไม่ถูก

วิสัชนา

ตั้งแต่ผมดูดวงมานะ ผมนับได้ไม่เกินห้าคน ที่ผมดูดวงให้แล้วบอกว่า ไม่แม่นเลย คือทำนายอะไรไม่ตรงสักข้อสักอย่าง สามถึงสี่คนในนั้นคือ แม่ชี กับ คนอยู่วัด(คนที่ไม่ได้บวช แต่ชีวิตทั้งหมดแทบอยู่ในวัดตลอด ปฏิบัติธรรมตลอด) กับพระ นอกนั้นอีกหนึ่งคนผมจำได้แม่นมาก คือเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย แล้วผมผูกดวงเค้าผิด ลืมปรับเวลาเกิดฯ 

การปรับด้วย ฤกษ์ ด้วย ฮวงจุ้ย ด้วย พระเวทย์อาคม หรือจะด้วยดวงชะตาเป็นไปอย่างนั้นอยู่แล้ว อันมีผลทำให้ดวงชะตาดีขึ้น ได้ลาภ ได้โชค ก็มีทางเสื่อมถอยไปได้แบบที่คุณเข้าใจไม่ผิด เพราะฤกษ์ดีวันนี้ ไปกระทบฤกษ์เสียของสักวันในอนาคต ฤกษ์ดีก็บั่นทอนลง หรือทะลายได้ ฮวงจุ้ยดีวันนี้ ภูมิอากาศทำให้ผุพังไป โดนแดดฝนกระหน่ำ หรือซ่อมสร้างต่อเติม ก็แปรเปลี่ยนได้ พระเวทย์อาคมขลัง ไม่อยู่ในกรอบกฎวิชา ไม่ท่องบ่นมนตรา ก็เสื่อมไปได้ ดวงชะตานั้นไซร้ เดียวดี เดียวร้าย คละเคล้ากันแน่นอน 

ปัจจัยที่ผมพบทำให้คนฝืนดวงชะตาได้คือ ใจล้วนๆครับ ต้องแยกคำว่า ใจก่อน 

ใจของผมหมายถึง ความรู้สึก(เวทนา) ความจำ(สัญญา) สังขาร(ความคิด) กำลังใจ(วิญญาณ) สี่อย่างนี้เป็นพื้นฐานทำให้ดวงชะตาเปลี่ยนได้ ภายใต้การดำเนินวิถีชีวิตในกรอบของ ศีลห้า และเพิ่มอัตราศีล มากขึ้นไปเรื่อยๆ หรือคงระดับไว้ที่ศีลห้าไม่ให้ต่ำกว่านี้ คนที่รักษาศีลดี จะทำสมาธิได้และมีสติดีตลอด เค้าจะรู้ตัวเองทันทีว่า ควรทำอะไร อย่างไร พูดสั้นๆว่า เหยียบเบรคชีวิต ยั้งเท้าเป็น

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ถ้าในดวงบอกไม่มีคู่ ไม่มีเงินเลยนี่ ทำให้มี ยากมาก และไม่ค่อยเจอใครเป็นแบบนี้ ที่พบบ่อยมาก ก ไก่ล้านตัวคือ ในดวงบอกว่า มีเงิน มีคู่ มีสิ่งดีๆสารพัด แต่ไปทำตัวของตัวเองให้ย่ำแย่เอง ผิดศีลผิดธรรมเอง พวกนี้แก้ได้ และแก้ง่ายมาก ตามขั้นตอนที่บอกไปข้างต้น

มันอยู่ที่การเอาธาตุในดวงที่ไม่ดี มาขัดเกลาให้ดี เช่น ธาตุที่บอกว่าเราเป็นตัวขี้โมโห เราเอาสติมาสำรวจก่อน เอาปัญญามาพิจารณาว่ามันโมโหจริงๆนะ แล้วก็เอาปัญญานี้พร้อมกับเจตนาอันมุ่งมั่นตั้งใจแก้ไขด้วยความเมตตา ไม่ได้บอกให้ขัดเกลาด้วยการเลิกโมโห แต่ให้หันหน้าจากโมโห มาเป็นเมตตาบ่อยๆ สำคัญคือต้องจับคู่ให้ถูกก่อนว่า อะไรช่วยแก้อะไรได้ ซึ่งคนปฏิบัติธรรมสูงๆจะรู้ดี

พอขัดไปขัดมา มันก็เหมือนธาตุเคลื่อน แต่จริงๆก็ต้องมีแรงปัจจัยจาก วันเดือนปี มาสนับสนุนด้วย เช่น เราไม่สามารถทำให้เด็กวัยรุ่นอายุ 17-18 เลิกคิดเรื่องการอยากมีคู่ได้ แต่เราทำกับคนแก่วัย 80 ได้ง่ายมากๆ จะเห็นว่า อายุ ก็คือวิชาโหราศาสตร์ด้วย 

ลำพังถ้าขัดอย่างเดียว ไม่มีปัจจัยเรื่องอายุ หรือเวลามาสนับสนุนเลย จะกระเตื้องได้น้อยมาก คือ ดีขึ้นมาในอัตราส่วนเต็มที่ๆพอจะดีได้ ณ ช่วงเวลานั้นๆ หรือพูดอีกอย่างว่า แต่ละช่วงชีวิตมีเพดานกำหนดให้เราได้ดีในระดับไหนต่างๆกันไป ช่วงกว้างๆอาจเป็นช่วงละสิบปี หรือช่วงแคบคือ ชั่วระยะเวลาจากวันหนึ่งถึงคืนหนึ่งเท่านั้นก็ได้ หรือกระทั่งแค่ชั่วลมหายใจเข้าไปหาลมหายใจออก เช่น ถ้าหากหายใจเข้าในเวลา 0:59:59 หายใจออกก็จะเป็นวันใหม่ ทันทีนะ คือ 1:00 น. ตีหนึ่งเต็มทันที วันก็เปลี่ยน 

พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่สอนให้คนฝืนดวงชะตาภายใต้กฎแห่งกรรม หมายความว่า ไม่ให้ย่อหย่อนยอมแพ้กับดวงชะตา ไม่ให้จมอยู่ในความเป็นกูเป็นฉัน ให้พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้กฎแห่งกรรมว่า หากมีกรรมชั่วมาให้ผล ณ ช่วงนั้นๆ เราก็ต้องได้รับผลนั้น ไม่มีอะไรจะทำให้พ้นไปได้ เพียงแต่ความเบาความหนักเท่านั้น ถ้าพูดเป็นวิทยาศาสตร์ก็คือ เกิดแรงขึ้นแน่ แต่มวลของแรงเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับการกระทำการของเรา ณ ตอนนั้นๆด้วย ที่สำคัญคือ สอนให้ทำความดีพัฒนาตนเองเพื่อไปเติมเหตุปัจจัยฝ่ายดี จะได้รับผลที่ดีต่อๆมา และลดทอนเหตุปัจจัยชั่ว เพื่อทำให้ผลชั่วนั้นเจือจางเบาบางลงไป 

โดยสรุปคือ มันเป็นเรื่องของ สสาร พลังงาน แค่เอามาพูดในปรัชญาสมัยที่คนคิดคำว่า สสาร กับ พลังงาน ยังไม่เกิดเลย คือราวๆหลายพันปีที่แล้วว่า ธาตุก็ย่อมรักษาพลังตัวเองไว้ แค่เปลี่ยนแปลงรูปได้ แค่นั้น บุญกรรมเราเช่นกัน ไม่ได้หายไปไหน แค่แปรสภาพ หรือเก็บกักไว้ หรือโดนทำให้เจือจางไป เท่านั้นเอง 

การอ่านดวงชะตาแบบจีน เป็นการอ่านคลังเก็บบุญกรรมทั้งหลายว่าจะออกมาให้ผลทางไหน เพื่อย้อนทวนกลับไปว่า เคยบำเพ็ญบารมีหรือประกอบกรรมดี กรรมชั่วอะไรมาบ้าง ถึงได้รับผลนั้นๆ แต่ดวงจีนได้แค่รู้ ส่วนกลไกวิเคราะห์ผมใช้ตามพระพุทธศาสนาทั้งหมด เช่น ดวงจีนอ่านออกว่า คนนี้ป่วยตั้งแต่เด็ก จนป่านนี้วัยกลางคนก็ยังไม่แข็งแรง แต่เหตุของการป่วย ผมเชื่อและพิสูจน์มาแล้วว่าจริงดังพระพุทธพจน์คือ เพราะเบียดเบียนสัตว์มามาก ทีนี้ต้องมาหาทางแก้ คุณต้องไปเลือกว่า ระหว่างเลิกเบียดเบียนแบบเคร่งครัดด้วยการทานมังสวิรัต ทันที กับ การไปออกกำลังกายไปหาหมอทันที อันไหนให้ผลแรงและเร็วกว่ากัน อันนี้เป็นตัวบอกว่า ป่วย ยังมีอยู่นะไม่ได้หายไปไหน แต่ถูกทำให้เจือจางเบาบางลงแค่ไหนเท่านั้น 

ในขณะที่บางดวงผมอ่านดวงมี ธาตุไฟ ในความหมายแห่ง ไฟ แต่บางดวง ผมกลับอ่านธาตุไฟ ในความหมายนัยว่า ธาตุน้ำ เหตุเพราะพฤติกรรมและสิ่งที่เค้าเป็นมา เจอมา พบมา มันกล่อมเกลาจนไฟเขาได้กลายเป็นน้ำแล้ว ถามว่า น้ำไฟ อะไรเหมือนกัน มันน่าจะต่างกันสิ

ลองมาคิดดีๆ น้ำคือ มีความเย็น แปลว่ามีร้อนน้อย มีไฟน้อย แต่ไฟคือ มีความร้อน แปลว่ามีความเย็นน้อย คือมีน้ำน้อย แต่ไม่เคยเหลือศูนย์นะ ตามกฎแห่งธาตุ ต้องมี ธาตุครบสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ อยู่ใน everything wherever เสมอ เพราะฉะนั้น ในความเป็นธาตุไฟของเขาที่น้อย ผมเลยอ่านเป็นธาตุน้ำมาแทนได้ เพราะไฟกับน้ำมีคุณสมบัติพลังแห่งความมุ่งมั่น ทำลายล้างไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ลองสังเกต ไฟไหม้ กับ น้ำป่าไหลหลาก อัตราเร็วในการลาม ไม่ต่างกันมากนักนะ

เพราะฉะนั้น คำว่า ธาตุเคลื่อนคือ เปลี่ยนจากความเข้มข้นมากๆ มาเจือจางลงเป็นอีกธาตุนึง หรือแผ่ซ่ายไปเป็นอีกธาตุ ที่ต้องไปรู้สองเรื่อง

คือ

ธาตุอะไร แปรไปเป็นธาตุอะไรได้บ้าง คู่ของมันคืออะไร
และ
ธาตุจะเข้มข้นขึ้น หรือ เจือจางลงเมื่อไหร่ และด้วยปฏิกิริยาไหน

ในขณะที่ดวงจีนทั่วไป พูดแค่ธาตุให้คุณให้โทษ วิชาที่ผมใช้มาตลอด พูดถึงระดับความเข้มข้น และการเร่งการหรี่ธาตุ ซึ่งมีประโยชน์กว่า เพราะเราไม่อาจตัดแขนเราทิ้งได้ง่ายๆ หากไม่ป่วยเป็นโรคร้ายที่จะลามทำร้ายร่างกายฉันใด เราก็ไม่อาจจะไปตีตราใส่ธาตุใดธาตุนึงในดวงชะตาว่า เอ๊งคือตัวร้าย ต้องโดนละเลย โดนข่ม โดนทำลาย ได้ฉันนั้น


วิชาที่ใช้ตอนนี้เป็นการตกผลึกระหว่าง ดวงจีน และ พระพุทธศาสนา เป็นการวิเคราะห์ร่วมระหว่างหลักธรรมคำสอนกับโหราศาสตร์จีน โดยยึดที่พระธรรมคำสอนเป็นหลักสำคัญ เพราะผมพิสูจน์กับตัวเองแล้วว่า ธาตุมันขัดเกลาได้จริง มันเจือจางธาตุร้ายได้ เพิ่มความเข้มข้นธาตุดีได้จริงๆ คิดได้จากพระพุทธพจน์บทนึงที่ว่า

หากกรรมชั่วประดุจดั่งเกลือ เค็มปี๋ขนาดนั้น
ถ้าว่าเราเอาน้ำเทลงไปสักถ้วย ความเค็มคงจางลงไปนิดหน่อย แต่ถ้าเราเอาน้ำเกลือถ้วยนั้น เทลงในแหล่งน้ำใหญ่ๆ หรือแม่น้ำ ถูกเจือจางด้วยน้ำจืดจำนวนมหาศาล ย่อมไม่เหลือความเค็ม แต่เกลือก็ไม่ได้หายไปไหน ก็อยู่ในน้ำนั้นหละ

น้ำ คือ บุญ กุศล คือ ความดี
เกลือ คือ บาป อกุศล คือ ความชั่ว

ถ้าไม่อยากให้ชีวิตเค็ม ลำบาก ลำเค็ญ ก็แค่หาน้ำที่ถูกกับเกลือนั้นๆ มาราดรดลงไปมากๆ จนเกลือนั้นมันละลาย สำคัญที่มีสติพอที่จะรู้ว่า ตรงไหนมันคือ เกลือของชีวิตไหม

ซึ่งตรงนี้ผู้ฝึกกรรมฐานและเรียนรู้ธรรมะ ย่อมรู้ได้ด้วยตนเองอย่างแจ่มแจ้ง จึงแก้ไขดวงชะตา เสมือนหนึ่งฝืนดวงได้ แต่จริงๆไม่ได้ฝืน แค่อยู่ร่วมกับดวงชะตา แต่เจือจางความเข้มข้นของกรรมชั่วลงได้ การเจือจางนี้เลยมีคุณวิเศษกว่าการเสริมเติมแต่ง ฤกษ์ ฮวงจุ้ย หรืออื่นๆเข้าไปในชีวิต เพราะเป็นการเจือจางที่เอาใจเป็นใหญ่ เป็นประธานกำหนดโดยตรง เป็นการเจือจางเข้าไปในจิตสันดาน เข้าไปในชีวิต ไปเกิดเป็นวิถีชีวิตใหม่ๆที่มีคุณภาพ

ซินแซหลัว 
LINE : @chinesehoro

ชอบมากๆครับม