นรลักษณ์ ตำราโบราณสยาม เล่มหนึ่ง

ตำรา นรลักษณโบราณสยาม เล่มหนึ่ง

ตำรานรลักษณ์โบราณสยาม ชื่ออาจยาวไปบ้าง แต่มุ่งหมายให้แสดงใจความของหนังสือเล่มนี้ ซึ่งบรรยายถึง วิธีการอ่านใบหน้า ศิลปะการอ่านใบหน้า ตลอดจนอากัปรกิริยาและส่วนอื่นๆของร่างกายคน ที่เราเรียกว่า วิชานรลักษณ์ มาจากคำว่า นร ซึ่งแปลว่า คน กับ ลักษณ์ หมายถึง ลักษณะ เน้นย้ำคำว่า โบราณสยาม หมายความว่า เป็นวิชาที่สยามเรา ได้บันทึกเอาไว้เกิน 100 ปีมาแล้ว 

จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้คือ 

1.เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ที่แสดงว่า วิชาโหราศาสตร์จีนแรกที่เข้ามาในไทย และได้รับความเชื่อถืออย่างสูง คือ วิชาดูโหงวเฮ้ง (วิชานรลักษณ์) โดยตำราเล่มนี้เรียบเรียงจาก ตำราโบราณสมุดไทยหนึ่งฉบับ และสมุดฝรั่งอีกหนึ่งฉบับ อายุของตำราต้นฉบับทั้งสองมีจดบันทึกเอาไว้อย่างชัดเจนกว่า มากกว่า 100 ปีแน่นอน

2.เป็นการค้นพบใหม่ทางวิชาโหงวเฮ้งในไทย ที่ปกติเราจะได้อ่านเนื้อหาจากหนังสือซึ่งบุคคลแต่งใหม่ขึ้นในช่วงไม่กี่สิบปีมานี้ ไม่ถึง 50 ปี (พศ.2561) เล่มนี้เป็นเนื้อหาที่คนโบราณสยามถ่ายทอดมาจาก ซินแซ และตำราของจีน จดบันทึกเป็นภาษาไทยยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์

3.ตำราต้นฉบับ เป็นตำราที่บันทึกโดยขุนนางและเชื้่อพระวงศ์ชั้นสูง จึงมีมาตรฐานความถูกต้องที่น่าเชื่อถืออย่างยิ่ง และเป็นการบันทึกไว้ในสมัยก่อนที่จีนจะมีสงคราม และเกิดการปฏิวัติราชวงศ์ ตลอดจนปฏิวัติวัฒนธรรม เนื้อหาวิชาเลยจัดว่า มีความเป็นของเก่า ของแท้ ตามมาตรฐานเดิมไม่ได้ถูกดัดแปลง

4.มีการเชื่อมโยงความเชื่อทางปรัชญาจีน การดูโหงวเฮ้ง เข้ากับหลักทางพระพุทธศาสนา และความเชื่อตามแบบไทย

5.ผู้เขียน ได้เรียบเรียงคำอธิบายเพิ่มเติมในส่วนต่างๆ ประกอบการเล่าเรื่องจากประวัติศาสตร์ถึงนรลักษณ์ หรือ โหงวเฮ้งของผู้มีบุญญาธิการ และบุคคลสำคัญ อาทิเช่น สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มหาปราชญ์ท่านขงจื้อ และมหาปุริสสะลักขณะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พระองค์ตรัสเล่า และได้รับการบันทึกในพระไตรปิฎก 

6.ผู้เขียนได้อธิบายความหมายของคำโบราณที่เกี่ยวข้องกับทางพระพุทธศาสนาให้สามารถเข้าใจได้ง่ายและชัดเจนขึ้น พร้อมผังภาพประกอบ ทั้งนี้มีการยกตัวอย่างเหตุการณ์ต่างๆในชีวิตจริงเข้าสอดแทรกในคำอธิบายตลอดทั้งเล่ม

เนื่องจากตำรามีเนื้อหามาก จึงได้แยกทำเป็นสองเล่ม เพื่อให้ง่ายต่อการพกพาติดตัวไปอ่านยามว่าง และสะดวกต่อการเปิดอ่าน ตำราเล่มนี้จึงเหมาะสำหรับ ผู้อ่านคนไทยเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ศึกษา ภูมิปัญญาโบราณของคนไทยที่ได้มองและตีความวิชาโหงวเฮ้งของคนจีนเอาไว้ ด้วยการจดบันทึกผสานกับการวิเคราะห์ด้วยหลักการทาง พระพุทธศาสนา เรื่อง ธาตุ ขันธ์ อายตนะ จึงเหมาะแก่ผู้ที่สนใจวิชาโหราศาสตร์ หรือสนใจในทางการพัฒนาชีวิต ตลอดจนสนใจมุมมองและกลไกที่มนุษย์กับธรรมชาติ กาลเวลา และสิ่งแวดล้อม สัมพันธ์กันอย่างไร ขับเคลื่อนชีวิตอย่างไร 

ไม่เพียงแต่เป็นหลักแนวคิด แต่ยังมีข้อความการพิจารณาดูลักษณะคนที่สามารถนำมาใช้ได้จริง เป็นประโยชน์ในการติดต่อทางการค้า ราชการ ตลอดจนสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลให้ได้ดียิ่งขึ้น